Frontpage 

คลิกที่ภาพหรือที่นี่เพื่อติดตามข่าวสารได้จาก facebook วัดธรรมสถิต

กฐินสามัคคี ณ วัดธรรมสถิต

วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2568

18.00 น. ตั้งองค์กฐิน ทำวัตร สวดมนต์เย็น นั่งสมาธิ และร่วมฟังพระธรรมเทศนา 1 กัณฐ์

วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2568

9.00 น. พระสงฆ์บิณฑบาตรบริเวณหอฉัน

10.00 น. พร้อมกันบริเวณมหาเจดีย์ ร่วมทอดกฐินสามัคคี


 

คลิกที่นี่เพื่อชมภาพงานอายุวัฒนมงคล 72 ปี

 

ร่วมทำบุญ บัญชีวัดธรรมสถิต ธนาคารกรุงเทพ เลขที่ 498-005-6362

 

 

"ท่านอาจารย์มั่นเคยสอนว่า ขนาดเด็กแรกเกิดยังมีตัวรู้ ตอนนั้นผมก็ยังไม่เชื่อ เด็กแรกเกิดมันจะรู้อะไร ผมคิดอยู่อย่างนี้ แต่ท่านบอกว่า "ที่มันร้องนั่นแหละ ถ้ามันไม่รู้ว่ามันทุกข์ มันจะร้องยังไงกัน"ฯ

  • "จะรู้จะเห็นอะไร ก็ให้สักแต่ว่ารู้ ไม่ให้เป็นไปตามเขา จิตดั้งเดิมของเรามันไม่มีอะไร มันรู้อยู่ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่พอมีสิ่งต่างๆมาสัมผัสทั้งภายนอกภายในก็ทำให้เราเผลอสติปล่อยตัวรู้ ลืมตัวรู้ที่มีอยู่ดั้งเดิมเสีย ไปรับสิ่งที่เอามาทีหลังแล้วก็ทำไปตามเขา คือ เป็นสุขเป็นทุกข์ อะไรต่างๆ ที่เราเป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าเราไปรับเอาสิ่งสมมติต่างๆ เข้ามายึดมั่นถือมั่น ถ้าเราจะไม่ให้เป็นไปตามสิ่งต่างๆ เราก็ต้องรักษาตัวรู้ดั้งเดิมของเราไว้ให้ตลอด ตัวสติ ต้องมีไว้มากๆ"ฯ
  • ลูกศิษย์คนหนึ่งรู้สึกน้อยใจตัวเองเป็นกำลัง จึงเข้าไปปรึกษากับท่านพ่อเรื่องนี้ ท่านก็บอกว่า "ที่จริงมันไม่มีอะไรที่จะต้องน้อยใจ เราเองก็เอนเอียงไปตามอารมณ์ที่มากระทบเท่านั้น ให้พิจารณามากๆ แล้วจะรู้ว่า จิตของเราอยู่ของเรา ส่วนหนึ่ง สิ่งพวกนี้ผ่านเข้ามาแล้วก็ไป เราจะเป็นไปตามเขาทำไม ให้เราประคองจิตอยู่แค่รู้เท่านั้นว่า มันมาเดี๋ยวมันก็ไป แล้วเราจะตามมันทำไม"ฯ
  • "มันมีอะไรเป็นของเราบ้าง ตายไปก็เอาอะไรไปติดตัวไม่ได้ แล้วจะอยากมันทำไม ไม่ต้องอยากอะไรทั้งนั้น ทำจิตให้สงบ ให้เป็นหนึ่ง ไม่ต้องไปสนใจในความมี ความเป็นตัวของตัวเองหรือผู้อื่น ให้สักแต่ว่ารู้อย่างเดียวก็พอ"ฯ
  • "มีอะไรมากระทบ ก็ให้มันอยู่แค่ "รู้" อย่าให้มันเข้ามาถึง ใจ"ฯ
  • "ให้รักษาตัวรู้ของเราให้เหนียวแน่น มั่นคงอย่างเดียว ก็ไม่มีอะไรจะมาครอบงำเราได้"ฯ
  • "ให้อยู่กับรู้ตลอดเวลา เว้นเวลาหลับ ตื่นเช้าขึ้นมาก็อยู่กับรู้ อีกหน่อยปัญญาแท้จะปรากฏ"ฯ
  • มีโยมคนหนึ่งปฏิบัติธรรมกับท่านพ่อ เกิดมีความรู้สึกว่า ตัวเองแบ่งเป็นสองคน คือมีคนหนึ่งเป็นผู้ทำ อีกคนหนึ่งเป็นผู้ดู เวลานั่งสมาธิหรือไม่นั่งก็เป็นอยู่อย่างนี้ จนไม่อยากนั่งสมาธิ เพราะรู้สึกว่านั่งกับไม่นั่งก็มีค่าเท่ากัน ไปกราบเรียนท่านพ่อ ท่านก็บอกว่า "ไม่ต้องนั่งก็ได้ ทำอย่างนี้ให้ได้ตลอดเวลา การนั่งหลับตานั้น เป็นการลูบคลำอยู่ ให้ดูไปเรื่อยๆ เมื่อกายกับจิตมันแยกออกจากกันแล้ว กายก็ไม่สามารถทับจิต ถ้ากายทับจิต จิตก็จะเป็นไปกับกาย"ฯ
  • "รู้ที่ถูก ต้องควบคู่ไปกับลมหายใจ"ฯ
  • "รู้ คือ รู้เท่าทันกิเลส เห็นกิเลส ไม่ทำไปตามกิเลส"ฯ
  • "ไม่มีอดีต อนาคต มีแต่ปัจจุบัน ไม่มีหญิงมีชาย ไม่มีเครื่องหมายอะไรทั้งสิ้น มันไม่มีอะไรเลยแม้แต่ตัวตน มีก็สักแต่ว่าสมมติทั้งนั้น"ฯ
  • "เมื่อรู้แล้ว ก็ให้อยู่เหนือรู้"ฯ
  • "เราอยู่บนที่สูงแล้ว ก็สามารถมองเห็นอะไรๆ ได้หมด"ฯ

 

 

 

About YaJai.com

ยาใจ เป็นชื่อตามหนังสือธรรมของวัดธรรมสถิต จังหวัดระยอง
ซึ่งรวบรวมคำสอนของท่านพ่อเฟื่อง โชติโก และวิธีฝึกสมาธิของท่านพ่อลี ธมฺมธโร

หลวงพ่อสุชิน ปริปุณโณ เมตตาอนุญาตให้นำเนื้อหาในหนังสือยาใจมานำเสนอบนเว็บนี้ พร้อมกับให้แนวทางว่าควรรวบรวมธรรมคำสอนจากครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆไว้ด้วย ไม่ต้องเน้นรูปภาพเพราะเทียบกับธรรมคำสอนไม่ได้เลย

 

night03 

เนื้อหาจากหนังสือยาใจแทบทั้งหมดในเว็บนี้ ได้มีผู้ศรัทธานามว่า คุณมุก และวิธีฝึกสมาธิแบบอานาปานสติแบบที่ ๒ ได้มีผู้ศรัทธานามว่า mayrin กรุณานำไปพิมพ์ไว้แล้วที่ larndham.net จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ใหม่ทั้งหมด ช่วยประหยัดแรงและเวลาในการสร้างเว็บนี้ไปได้มากทีเดียว จึงขอขอบคุณ คุณมุก กับ คุณ mayrin ไว้ ณ ที่นี้ และขอร่วมอนุโมทนาบุญกุศลของทั้งสองท่านด้วย

หากท่านใดต้องการให้คำแนะนำ ส่งข่าวของวัดธรรมสถิต รูปภาพ หรือมีเนื้อหาอื่นใดที่เกี่ยวข้องซึ่งอยากนำมาร่วมบันทึกไว้ในเว็บนี้ กรุณาส่งอีเมล์มาที่ excel@ExcelExpertTraining.com

หากเว็บนี้มีข้อผิดพลาดอย่างใดก็ตาม ขอให้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้สร้างเว็บนี้เอง ทางวัดธรรมสถิตมิได้มีส่วนต้องรับผิดด้วยแต่อย่างใด

สมเกียรติ และ กฤษณพร ฟุ้งเกียรติ
มกราคม 2551, ตุลาคม 2559

Go to top